การดูแลยางปัดน้ำฝนอย่างไร ให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สิ่งเล็กๆ ที่ไม่ควรมองข้าม

“ยางปัดน้ำฝน” จัดเป็นอุปกรณ์ที่มีความจำเป็นสำหรับรถยนต์ทุกคัน เพราะทำหน้าที่ปัดน้ำ, ปัดเศษใบไม้, แมลง, เศษดินโคลนหรือแม้กระทั่งฝุ่นละอองต่างๆ ที่เกาะอยู่บนกระจกบังลมหน้าและหลังให้หลุดออกไป เพื่อทัศนวิสัยการขับขี่ที่ดียิ่งขึ้น ดังนั้น เจ้าของรถจึงควรหมั่นดูแลรักษาให้พร้อมใช้งานตลอดเวลา

อย่างไรก็ดี แม้ว่าไม่ได้ใช้งานเป็นประจำยางปัดน้ำฝนก็มีโอกาสชำรุดหรือเสื่อมสภาพได้ เช่น การจอดรถตากแดดนานๆ เป็นประจำจะทำให้ยางปัดน้ำฝนแข็งกรอบ ขาดความยืดหยุ่น เพราะยางต้องแนบกับกระจกที่รับความร้อนนั่นเอง กรณีเช่นนี้จึงมีหลายท่านสงสัยว่า ถ้าหลีกเลี่ยงการจอดรถตากแดดไม่ได้ การยกก้านใบปัดน้ำฝนขึ้นจะดีหรือไม่

การยกก้านใบปัดน้ำฝนขึ้นทุกวันๆ บ่อยๆ จะทำให้สปริงที่ก้านใบปัดน้ำฝนมีโอกาสเกิดอาการล้า ผลคือ แรงกดบนกระจกบังลมลดลง อาจทำให้ประสิทธิภาพในการควบคุมการปัดน้ำฝนลดลง ซึ่งหากเปรียบเทียบกันระหว่าง ราคาเปลี่ยนก้านปัดน้ำฝน จะสูงกว่าราคายางปัดน้ำฝนมากเลยทีเดียว

ดังนั้นควรเลือกจอดในร่มน่าจะดีกว่า และหมั่นตรวจเช็คสภาพความพร้อมและทำความสะอาดยางปัดน้ำฝนด้วยตนเองสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ซึ่งมีเทคนิคง่ายๆ คือ ยกก้านปัดน้ำฝนขึ้นและใช้ผ้าชุบน้ำสะอาดบิดหมาด เช็ดรูดไปตามความยาวของยางปัดน้ำฝนในทิศทางเดียว หากอาจพบคราบสีดำเหนียว ไม่ต้องตกใจ เพราะนั่นคือละอองน้ำมันไอเสียรถยนต์ของรถคันอื่นที่ลอยมาเกาะ สามารถเช็ดออกได้ และหากพบร่องรอยการฉีกขาดหรือแข็งกรอบ อย่ารีรอที่จะเปลี่ยนชุดใหม่ เพราะนอกจากจะปัดไม่สะอาดแล้ว ยังทำให้เกิดเสียงดังและสะดุดขณะปัด หรืออาจทำให้เกิดรอยขีดข่วนบนกระจกได้อีกด้วย

มีข้อแนะนำสำหรับการเลือกซื้อยางปัดน้ำฝนคือ ควรเลือกซื้อยางปัดน้ำฝนที่แนบสนิทกับกระจกบังลมหน้า-หลังได้ดี มีความยืดหยุ่นและมีขนาดพอดีกับก้านปัดน้ำฝนเท่านั้น ทั้งนี้เพราะประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้งาน

ขอให้เพื่อนๆ หมั่นตรวจสอบเพื่อความปลอดภัยด้วยนะครับ ^